แหล่งประวัติศาสตร์ ของไทยอีกแห่ง ตึกแดง จันทบุรี

0
8045

แหล่งประวัติศาสตร์ ของไทยอีกแห่ง ตึกแดง จันทบุรี
ตึกแดง จันทบุรี

ตึกแดงเป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2436 หรือ ร.ศ. 112 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว กว้าง ๗ เมตร ยาว ๓๒ เมตร หลังคาและตึกเป็นสีแดง จึงเรียกว่า “ตึกแดง “ภายในแบ่งเป็น ๕ ห้อง แต่ละห้องตรงกลางมีประตูและทางเดินเชื่อมติดต่อกันทุกห้อง ตึกแดงถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตรที่ถูกรื้อไป วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบางส่วนได้นำมาจากเมืองไซ่ง่อน โดยฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อเป็นกองบัญชาการและที่พักนายทหารที่รักษาการบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสถอนกำลังทหารออกจากเมืองจันทบุรีเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ ตึกแดงได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗
หลังจากฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองเมืองจันทบุรีและได้ส่งกองทหารเข้ามาประจำการทั่งบริเวณค่ายตากสิน และบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ จากนั้นได้มีการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานและที่พักของเหล่านายทหารและพลทหารทั้งทหารผรั่งเศสและทหารญวน โดยฝรั่งเศสได้ตั้งเตาเผาอิฐ กระเบี้อง เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารอีกด้วย
สำหรับบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์นั้น มีกองทหารฝรั่งเศสมาประจำการอยู่ ๑ กองร้อยในช่วงเวลานั้นได้ก่อสร้างอาคารและยังคงหลงเหลือหลักฐานจนถึงปัจจุบัน


ปืนใหญ่ปากน้ำแหลมสิงห์
๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำ
ได้รับแจ้งจากชาวประมงว่า พบปืนใหญ่โบราณจมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี บริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากท่าเทียบเรือและสะพาน หน้าวัดแหลมสิงห์ไปทางทิศเหนือประมาณ ๘๐ เมตร น้ำลึกประมาณ ๔-๕ เมตร
หลังจากที่กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำได้นำปืนใหญ่โบราณกระบอกดังหล่าวขึ้นมา และผ่านการสงวนรักษษในขั้นต้นแล้ว พบว่าบริเวณลำกล้องปืนระหว่างเพลาปืนกับแท่นรูสายชนวน มีลายนูนเป็นรูปนกอินทรีย์การปีกอยู่บนกื่งไม้ ที่จะงอยปากคาบงูอยู่ ด้านล่างรูปนกอินทรีย์มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ และตัวเลขอารบิกอยู่ ๒ แถว คือ NO 73 และ 44-3-0 นอกจากตัวปืนใหญ่แล้ว ยังพบโซ่ที่พันรอบตัวปืนอยู่ในลักษณะเฉียงรัดเพลาปืนทั้ง ๒ ข้าง และที่หัวชองโซ่ข้อใหญ่ที่สุด มีการสลักตัวเลข 1893 ไว้ด้วย
จากหลักฐานที่ปรากฎบนตัวปืนใหญ่รูปอินทรีย์จิกงูนั้นเป็นเครื่องหมายหรือตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดินโปเลียน โบนสปาร์ท (Napoleon Bonaparte) ที่ปกครองฝรั่งเศสในช่วงปี ค.ศ. 1767-1821 (พ.ศ. ๒๓๑๒-๒๓๖๔)ขณะที่ช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ เมื่อฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีเป็นประกันนั้น ตรงกับ ค.ศ. 1893 (พ.ศ. ๒๔๓๖) มีระยะเวลาภายหลังรัชกาลจักรพรรดินโปเลียนประมาณกว่า ๗๐ ปี อาจมีความเป็นไปได้่ว่าปืนใหญ่กระบอกดังกล่าวถูกผลิตในสมัยจักรพรรดินโปเลียน และมีการใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ฝรั่งเศสเข้าสู่การปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่ลัทธิการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศษขยายเข้าสู่กลุ่มประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขงรวมทั้งประเทศไทยด้วยและหลักฐานตัวเลข 1893 ที่สลักอยู่บนโว่นั้น น่าจะเป็นปีที่ผลิตโซ่คือ ปีคริสตศักราช 1893ซึ่งเป็นระยะเวลาที่อยู่ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ที่ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรีเป็นประกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1893-1904 หรือ พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๔๗ การพบปืนใหญ่ในลักษณะมีโซ่พันรอบตัวปืนนั้น น่าจะเป็นการใช้โซ่ผูกรัดปืนใหญ่เพื่อทำการเคลื่อนย้าย และอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเคลื่อนย้าย จนทำให้ปืนใหญ่กระบอกนี้ตกลงไปในแม่น้ำจันทบุรีเมื่อวิเคราะห์และประมวลข้อมูลต่างๆ จากหลักฐานดังหล่าวจึงสันนิษฐานได้ว่าปืนใหญ่โบราณกระบอกนี้ น่าจะเป็นปืนใหญ่ของกองทหารฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งกองบั๙ชาการที่เมืองจันทบุรีและบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ และการกำหนดอายุ โดยอาศัยตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดินโปเลียน ปืนใหญ่กระบอกนี้น่าจะมีอายุจนถึงปัจจุบัน
(พ.ศ. ๒๕๔๙)๑๘๕ ปี


ตึกแดง จันทบุรี
สถานที่ตั้ง : บริเวณชายหาดแหลมสิงห์ ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
เวลาเปิด : เปิดทุกวัน เข้าชมฟรี
การเดินทาง : ห่างจากตัวจังหวัดจันทบุรี ประมาณ 30 กิโลเมตร
ลิงค์ แผนที่ : Google Map


ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here